5 เคล็ดลับตั้ง "คำถามวิจัย" (บทที่ 1) อย่างไร ให้คมชัดและน่าสนใจ (จนอาจารย์ที่ปรึกษาต้องพยักหน้า)

5 เคล็ดลับตั้ง "คำถามวิจัย" (บทที่ 1) อย่างไร ให้คมชัดและน่าสนใจ (จนอาจารย์ที่ปรึกษาต้องพยักหน้า)

[บทนำ] คำถามวิจัย คือ "หัวใจ" ของงานวิจัยทั้งหมด ไม่ใช่แค่ "หัวข้อ" กว้างๆ คำถามวิจัยที่ดียิ่งกว่าเข็มทิศ เพราะมันคือสิ่งที่กำหนดทุกอย่างนับจากนี้: ตั้งแต่วิธีการหาข้อมูล, สถิติที่ต้องใช้, ไปจนถึงข้อสรุปของงาน แต่หลายคนกลับติดขัดตั้งแต่ก้าวแรก "ก้าววิจัย" ขอแชร์ 5 เคล็ดลับที่จะช่วยให้คุณตั้งคำถามวิจัยได้ "คม" และ "เป็นไปได้จริง"

1. ผ่านการทดสอบ "So What?" (แล้วไงต่อ?) ก่อนจะถามว่า "อย่างไร?" ให้ถามว่า "ทำไม?" ก่อน ลองถามตัวเองว่า ถ้าคุณตอบคำถามวิจัยนี้ได้ "แล้วไงต่อ?" โลกจะได้อะไร? วงการวิชาการจะได้อะไร? หากคำตอบของคุณคือ "ไม่รู้" หรือ "ก็แค่ทำให้จบ"
แปลว่าคำถามของคุณยังไม่น่าสนใจพอ จงหาคำถามที่คำตอบของมันจะสร้างความเปลี่ยนแปลงหรือเติมเต็มช่องว่างความรู้เดิมให้ได้

2. เปลี่ยนจาก "หัวข้อกว้าง" สู่ "เป้าหมายที่แคบ" นักวิจัยมือใหม่มักเริ่มด้วยหัวข้อที่ใหญ่เกินไป เช่น "การศึกษาภาวะซึมเศร้าในวัยรุ่น" ซึ่งต้องใช้เวลา 10 ปีก็อาจไม่จบ คุณต้องจำกัดขอบเขตให้แคบลง เช่น "ปัจจัยอะไร ในครอบครัว ที่ส่งผลต่อ ภาวะซึมเศร้า ของ นักเรียนชั้น ม.ปลาย ใน เขตเมืองเชียงใหม่?" การจำกัดขอบเขตให้ชัดเจน ทำให้คุณทำงานจบได้จริงในเวลาที่มีจำกัด

3. หลีกเลี่ยงคำถามที่ตอบด้วย "ใช่/ไม่ใช่" คำถามวิจัยที่ดีควรเปิดโอกาสให้เกิดการ "สำรวจ" และ "อธิบาย" ไม่ใช่แค่ "ยืนยัน"

• คำถามที่ไม่ดี: "การให้คำปรึกษาช่วยลดความเครียดได้ใช่หรือไม่?" (คำตอบ: ใช่ จบ... ซึ่งทุกคนก็รู้อยู่แล้ว)

• คำถามที่ดีกว่า: "กระบวนการใด ในการให้คำปรึกษาแบบกลุ่ม ที่ส่งผลต่อ การลดระดับความเครียด ของนักศึกษาปริญญาโท มากที่สุด?"

4. เชื่อมโยงกับ "ปัญหา" ที่มีอยู่จริง คำถามวิจัยของคุณไม่ได้ลอยมาจากอากาศ มันต้องตั้งอยู่บน "ปัญหา" ที่เกิดขึ้นจริง หรือ "ช่องว่าง" (Gap) ที่งานวิจัยก่อนหน้ายังไม่ได้ทำ ลองอ่านงานวิจัยของคนอื่นเยอะๆ แล้วมองหาประโยคที่ว่า "งานวิจัยในอนาคตควรศึกษา..." นั่นคือขุมทรัพย์ชั้นดีในการตั้งคำถามของคุณ

5. ต้องวัดผลได้ (Be Measurable) คำถามวิจัยที่ดีต้องสามารถนำไปสู่การเก็บข้อมูลและวัดผลได้จริง หากคุณตั้งคำถามถึง "ความสุขที่แท้จริงของมนุษย์" คุณจะวัดมันอย่างไร? แต่ถ้าคุณเปลี่ยนเป็น "การวัดระดับ ความพึงพอใจในชีวิต
(Life Satisfaction) โดยใช้แบบวัด..." แบบนี้จะทำให้คุณสามารถออกแบบระเบียบวิธีวิจัย (บทที่ 3) ต่อไปได้

[บทสรุป] การตั้งคำถามวิจัยเปรียบเหมือนการติดกระดุมเม็ดแรก ถ้าติดถูก เม็ดต่อๆ ไปก็ง่าย หากคุณยังสับสนกับทิศทางและต้องการ "ก้าวแรก" ที่มั่นคง บริการ Proposal Support ของเราพร้อมที่จะทำงานร่วมกับคุณเพื่อสร้างโครงร่างวิจัยที่แข็งแกร่งที่สุด